บทความน่ารู้
ปัจจุบันการซื้อขายสินค้าออนไลน์กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายและในยุคนี้มีสินค้าหลากหลายประเภทที่สามารถซื้อขายได้ผ่าน ทางเว็บไซต์และสื่อโซเชียลต่าง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งสินค้าเกษตรซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของวงการเกษตรกรที่มีช่องทางในการจัดจำหน่ายผลผลิต
ไปยัง ผู้บริโภคได้โดยตรง เว็บไซต์ DGTFarm “มิติใหม่…สินค้าเกษตรไทยบนโลกออนไลน์” เป็นอีกเว็บไซต์เพื่อการซื้อขายสินค้าเกษตร
ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และสามารถซื้อหาสินค้าได้จากทั่วทุกมุมโลก
สำหรับเกษตรกรที่สนใจจะขายสินค้าบนเว็บไซต์หรือใครที่ต้องการจะหาซื้อสินค้าเกษตรส่งตรงจากเกษตรกร มีขั้นตอนการสมัครง่ายๆ ดังนี้
เข้าสู่เว็บไซต์ DGTFarm (www.dgtfarm.com) เพื่อสมัครสมาชิก
กรอกข้อมูลการสมัครสมาชิก 2.1 เลือกประเภทที่ต้องการสมัคร ได้แก่ ผู้ซื้อ ผู้ขาย หรือทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขาย 2.2 กรอกข้อมูลทั่วไปของผู้สมัคร รหัสบัตรประชาชน / มาตรฐานสินค้าที่ได้รับ (ผู้ขาย) /รหัส ผู้ประกอบการ
QR-Trace (ถ้ามี) (ผู้ขาย) / ชื่อ-นามสกุล / ที่อยู่ /เบอร์โทรศัพท์ / E-Mail (ที่ใช้งานจริง) 2.3 กรอกรหัสผ่าน และ รหัสตรวจสอบ (Captcha) 2.4 กดปุ่ม สมัครสมาชิก เพื่อยืนยันการสมัคร และรอการตรวจสอบจากทีมงาน
DGTFarm (แจ้งผลการสมัครผ่านทาง E-Mail)
จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการสมัครนั้นแสนจะง่ายไม่ยุ่งยาก เมื่อได้รับแจ้งผลการ สมัครผ่านทาง E-mail แล้วก็สามารถเข้ามาลงขายสินค้าหรือเลือกซื้อสินค้า ในเว็บไซต์ได้ทันที อีกทั้งระบบยังถูกออกแบบมาให้สะดวกต่อการใช้งาน ที่สำคัญคือฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย สะดวกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถ ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติ่มได้ที่ :
Facebook : DGTFarm : ตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ (www.facebook.com/MyDGTFarm)
โทรศัพท์ : 08-0352-1558 หรือ 02-579-8648
ID Line : dgtfarm
สินค้าเกษตรออนไลน์…ซื้อง่าย ขายดี ที่เว็บไซต์ DGTFarm
เตาอบปลาและเนื้อสัตว์แดดเดียว …ไม่ง้อแสงอาทิตย์ เพื่อเกษตร 4.0
ผศ.ดร.คุณยุต เอี่ยมสอาด และทีมงานผู้วิจัย ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลว่า “เตาอบปลาและเนื้อสัตว์แดดเดียวไม่อาศัย แสงอาทิตย์ (Non – Solar Fish and Meat Daddeaw Oven)” เป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตปลาแดดเดียวหรือเนื้อแดดเดียวที่ไม่สามารถควบคุมคุณภาพการผลิต ได้ตามต้องการ เพราะต้องอาศัยพลังงานจากธรรมชาติซึ่งควบคุมไม่ได้ เช่นความร้อนจากแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ ในการตากปลาหรือเนื้อสัตว์ หรือหากอยู่ในช่วงฤดูฝนที่สภาพอาการไม่เป็นใจ ทำให้คุณภาพและปริมาณการผลิตลดลง ทางผู้วิจัยจึงได้พัฒนาเครื่องอบไม่ง้อแสงอาทิตย์ โดยอาศัยอุปกรณ์ให้ความร้อนด้วยไฟฟ้า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
“เครื่องอบปลาและเนื้อสัตว์แดดเดียวโดยอาศัยอุปกรณ์ให้ความร้อนด้วยไฟฟ้ามี จุดเด่นคือสามารถ ทำ วามร้อนและลดความร้อนได้อย่างรวดเร็ว เตามีขนาดเล็กกว่าเตาประเภทอื่น ๆ เพราะตัวทำ ความร้อนมีขนาดเล็กสามารถให้ความ ร้อนได้อย่างรวดเร็วจึงต้องการพื้นที่ (ปริมาตร) ในเตา น้อยลงกว่าเตาประเภทอื่น ๆ เป็นเตาสะอาดไม่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม, ควบคุมความร้อน ได้อย่าง แม่นยำ, ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพต้นทุนเริ่มแรกและค่าใช้จ่าย ในการบำรุงรักษาต่ำกว่า เตาประเภท” ผศ.ดร.คุณยุต กล่าว
อีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็จะถึงงานแสดงโชว์นวัตกรรมด้านการเกษตร ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ มก.นั่นก็คืองาน “บนเส้นทางวิศวกรรม ครั้งที่ 11 AGRINNOVATION ENGINEERING 2018” ภายใต้แนวคิด “เพื่อวันนี้และวันหน้า
สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งในงานได้จัดอย่างยิ่งใหญ่ มีผลงานสิ่งประดิษฐ์จากนวัตกรรมที่เกิดจาก ผสมผสานเทคโนโลยี และการเกษตรเข้าด้วยกันจนได้นวัตกรรมที่ตอบโจทย์และใช้งานได้จริงพร้อมสาธิตการใช้งาน จากเจ้าของผลงาน ในปีนี้มากมายกว่า 39 ผลงาน เตรียมพบกัน ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มก. ระหว่างวันที่ 26 – 28 มกราคม 2561
กุ้งกุลาดำโอเมก้า3 1ตัว=กะพงครึ่งตัว
กุ้งกุลาดำแต่เดิมเป็นกุ้งบริโภคและส่งออกหลักของไทย จนเกิดกระแสฟีเวอร์ ยิ่งลงยิ่งรวย แต่ด้วยแต่ละครอปลงกุ้งได้น้อยแค่ไร่ละ 5-6 หมื่นตัวเกษตรกรเลยเกิดความโลภลงกุ้งจนแน่น บ่อ ส่งผลให้โรคระบาด การทำลายสิ่งแวดล้อมเกิดตามมา ในที่สุดอุตสาหกรรมกุ้งกุลาดำเลยสูญสลายตั้งแต่นั้นมา กระทั่งกุ้งขาวแวนนาไมเข้ามาแทนที่จนบัดนี้
ในปัจจุบันจำนวนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งนับหมื่นราย เหลือแค่ประมาณ 100 รายเท่านั้นที่ยังคงเลี้ยงกุ้งกุลาดำอยู่อย่างจริงจัง ส่งกุ้งไซส์ใหญ่ ราคาดีเข้าตลาดจีน ทำให้พวกที่ยังเลี้ยงต้อง แข่งกันทำกุ้งคุณภาพออกมา
ด้วยความต้องการให้กุ้งกุลาดำกลับมาเป็นที่นิยมบริโภคอีกครั้ง เพื่อให้คนไทยจะได้กินกุ้งรสชาติอร่อยกว่ากุ้งขาวพร้อมกับมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าเดิม ศักดิ์สหกรณ์ คงสมุทร กรรมการผู้จัดการภูเก็ตกรีนชริมป์ ร่วมกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือไบโอเทค พัฒนาจุลินทรีย์มาผสมในอาหารกุ้ง เพื่อให้กุ้งกุลาดำมีโอเมก้า 3 เพิ่มขึ้น กินกุ้งแค่ 1 ตัว ได้โอเมก้า 3 เท่ากับกินปลากะพงครึ่ง กก.
“โดยส่วนตัวแม้จะรู้อยู่แล้ว กุ้งกุลาดำกลับมาแข่งกับกุ้งขาวไม่ได้ แต่อยากให้คนไทยได้บริโภคกุ้งที่มีประโยชน์ จึงต้องพยายามสร้างจุดขายให้กุ้งของตัวเอง เลยร่วมกับ ดร.พนิดา อุนะกุล นักวิจัยของไบโอเทค วิจัยและพัฒนาจุลินทรีย์ทะเล Aurantiochytrium Limacinum BCC52274 ซึ่งสามารถสร้างและสะสมโอเมก้า 3 ชนิด DHA และ EPA ที่ไม่มีในพืชและร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้”
ศักดิ์สหกรณ์ อธิบายว่า จุลินทรีย์ชนิดนี้ เป็นจุลินทรีย์ ประจำถิ่นตามป่าชายเลนทั่วไป มีคุณสมบัติผลิตโอเมก้า 3 ทั้ง 2 ชนิดได้สูง นักวิจัยเลยนำมาทดลองคัดแยกในระดับห้อง ปฏิบัติการ เพื่อให้ได้จุลินทรีย์บริสุทธิ์ จากนั้นนำมาเลี้ยง ในอาหารเหลว 3 วัน เพื่อเพิ่มปริมาณ แล้วนำไปทำเป็นผง เพื่อผสมกับอาหารกุ้งในช่วงอายุก่อนจับ 45 วัน โดยนำ จุลินทรีย์มาคลุกกับอาหารกุ้งในอัตรา 2-5 กรัมต่ออาหาร 1 กก. ให้อาหารวันละ 4 มื้อจากนั้นจุลินทรีย์ที่กุ้งกินเข้าไป จะไปสร้างโอเมก้า 3 ให้สะสมอยู่ในตัวกุ้ง
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 27 เม.ย. 2560 05:01 https://www.thairath.co.th/content/923462